About สงครามการค้า

"เจนีวาจะออกแต่แถลงการณ์ที่ไม่แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับ 'บทสนทนาที่ตรงไปตรงมา' และความปรารถนาที่จะพูดคุยต่อไปเท่านั้น"

แต่ในที่สุดพวกเขาต้องเผชิญหน้ากันบนโต๊ะเจรจาในสุดสัปดาห์นี้ แล้วทำไมต้องเป็นตอนนี้

สี จิ้นผิง ยืนเคียงข้างผู้นำจากทั่วโลกใต้ ซึ่งถือเป็นเครื่องเตือนใจรัฐบาลของทรัมป์ว่าจีนไม่เพียงแต่มีทางเลือกอื่นสำหรับการค้าเท่านั้น แต่ยังแสดงตนเป็นผู้นำระดับโลกอีกด้วย

สงครามการค้าสหรัฐ-จีน: ใครจะยอมอ่อนข้อนั่งเจรจาก่อนกัน ?

ในความเป็นจริง ภาษีหลายอย่างยังคงอยู่และส่งต่อมาถึงสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และกำแพงภาษีล่าสุดของ ทรัมป์ ยังไปเพิ่มอัตราภาษีเดิมอีกด้วย

โอเค มาถึงตอนนี้ ผมก็ได้อธิบายวิธีคิดมาตรฐานเกี่ยวกับสงครามการค้า วิธีคิดซึ่งลงหลักปักฐานแล้ว แต่โชคร้ายที่ทั้งหมดนั้นก็ยังอธิบายชั่วขณะปัจจุบันของเราไม่ได้ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะวิธีคิดทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า ภาษีศุลกากรถูกกำหนดในเกมที่ผู้เล่นทุกรายมีเหตุมีผล พวกเขาเข้าใจดีว่าการค้าทำงานอย่างไร ต่างคนต่างลงมือทำในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของตัวเอง ต่อให้ผลลัพธ์รวมหมู่ของการกระทำเหล่านั้นจะออกมาเลวร้ายต่อสังคมก็ตาม

เศรษฐกิจประเทศเฟื่องฟู จนตลาดหุ้นเติบโต ด้วยความหวังว่า เศรษฐกิจจะดีอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ

ก็เริ่มฟื้นตัว สงครามการค้า ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมและไร่นา กลับมาผลิตสินค้าได้ตามปกติ

อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของจีน จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทรัมป์กำหนดอัตราภาษี

ไนเจอร์สอบสวนการส่งออกหินดาวอังคาร หลังถูกประมูลหลายล้านในนครนิวยอร์ก

จีนขึ้นภาษีพลังงาน-เครื่องจักรสหรัฐฯ ตอบโต้มาตรการทรัมป์

สงครามการค้าโลกรอบใหม่เริ่มขึ้น หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน, แคนาดา, และเม็กซิโก

คำตอบก็คือ กลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มเท่าเทียมกว่ากลุ่มอื่น เพราะพวกเขาจัดระเบียบกันได้ดีกว่า ปกติเนื่องจากมีจำนวนผู้เล่นไม่กี่รายที่มีกระสุนการเงินมากที่สุด นั่นหมายความว่า ผู้ผลิตในประเทศกระเป๋าหนักสามารถล็อบบี้อย่างมีประสิทธิผลให้รัฐตั้งกำแพงภาษีกีดกันการแข่งขันจากสินค้านำเข้า ขณะที่ผู้บริโภคและผู้ผลิตตัวเล็กกว่าที่ได้ประโยชน์จากสินค้านำเข้าราคาย่อมเยาไม่สามารถทำแบบเดียวกันได้

ลองนึกภาพว่าประเทศ A ผลิตเหล็กและส่งออกไปยังประเทศ B ซึ่งผลิตรถยนต์ หากประเทศ B ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากประเทศ A เพื่อปกป้องผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศ ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ B จะต้องจ่ายค่าเหล็กในราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาต้นทุนการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น และอาจทำให้ราคาขายรถยนต์สูงขึ้นด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *